เชื่อเถอะค่ะว่า แม้คุณจะไม่ใช่นางเอก น้ำส้มก็ยังคงเป็นน้ำผลไม้ที่วิเศษสุด
เพราะจากผลงานการวิจัยล่าสุดของ "คลีฟแลนด์คลินิก" นำโดยเดนนิส แอล สเปรชเชอร์ ระบุว่าการดื่มน้ำส้มวันละ 2 แก้ว ช่วยลดความดันโลหิตได้
จากการทดสอบในคนไข้โรคหัวใจ 25 รายที่มีอาการเส้นเลือดอุดตันเป็นบางส่วน ซึ่งทุกคนได้รับการรักษาด้วยการรับประทานยาแก้ความดัน แต่ระดับความดันก็ยังคงสูงอยู่
ในช่วงสองสัปดาห์แรก พวกเขาดื่มเครื่องดื่มรสส้มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีวันละ 2 แก้ว ระดับความดันลดลงเล็กน้อยสองสัปดาห์ต่อมาดื่มน้ำส้ม (ที่ไม่ใช่จากน้ำส้มเข้มข้น) ความดันลดลงอีกเล็กน้อย อีกสองสัปดาห์ถัดมาพวกเขาดื่มน้ำส้มละลายกับวิตามินซี และในสองสัปดาห์สุดท้าย
ดื่มน้ำส้มละลายกับวิตามินซีและอี และในสองสัปดาห์สุดท้ายดื่มน้ำส้มละลายกับวิตามินซีและอี หลังสิ้นสุดการทดสอบในสองอาทิตย์สุดท้ายคนไข้ส่วนใหญ่มีระดับความดันโลหิตใน ระดับปกติ
ซึ่งจากการทดสอบกับผู้ป่วยทำให้สามารถเห็นระดับความดันเลบือดที่ลดลงได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะลดลงเพียงเล็กน้อยก็ตาม
อย่างไรก็ตามนักวิชาการทางด้านโรคหัวใจและหลดเลือดได้กล่าวว่า การค้นพบในครั้งนี้มิใช่การออกมาบอกให้ทุกคนหันมาดื่มน้ำส้มวันละ 2 แก้ว แต่คนไข้ที่พฤติกรรมการบริโภค เพราะมีแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจกล่าวว่าการบริโภคอาหาร การควบคุมน้ำหนัก ตลอดจนการดูแลระดับแอลกอฮอล์และระดับเกลือในร่างกายนั้นถือว่ามีความสำคัญ และมีผลกระทบมากกว่าการรักษาทางการแพทย์เสียอีก
นักวิชาการยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่าความแตกต่างเพียงเล็กน้อยของความ ดันโลหิตนั้น สามารถสร้างความแตกต่างเพียงอย่างใหญ่หลวงต่อความเสี่ยงของโรคหลอดเลือด หัวใจได้ และเช่นกันกับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งไม่ควรพอใจกับการควบคุมที่เป็นเหตุเป็นผลเท่านั้นหากควรมุ่งไปยังเรื่อง ของความดันโลหิตเป็นสำคัญด้วย
เพราะจากผลงานการวิจัยล่าสุดของ "คลีฟแลนด์คลินิก" นำโดยเดนนิส แอล สเปรชเชอร์ ระบุว่าการดื่มน้ำส้มวันละ 2 แก้ว ช่วยลดความดันโลหิตได้
จากการทดสอบในคนไข้โรคหัวใจ 25 รายที่มีอาการเส้นเลือดอุดตันเป็นบางส่วน ซึ่งทุกคนได้รับการรักษาด้วยการรับประทานยาแก้ความดัน แต่ระดับความดันก็ยังคงสูงอยู่
ในช่วงสองสัปดาห์แรก พวกเขาดื่มเครื่องดื่มรสส้มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีวันละ 2 แก้ว ระดับความดันลดลงเล็กน้อยสองสัปดาห์ต่อมาดื่มน้ำส้ม (ที่ไม่ใช่จากน้ำส้มเข้มข้น) ความดันลดลงอีกเล็กน้อย อีกสองสัปดาห์ถัดมาพวกเขาดื่มน้ำส้มละลายกับวิตามินซี และในสองสัปดาห์สุดท้าย
ดื่มน้ำส้มละลายกับวิตามินซีและอี และในสองสัปดาห์สุดท้ายดื่มน้ำส้มละลายกับวิตามินซีและอี หลังสิ้นสุดการทดสอบในสองอาทิตย์สุดท้ายคนไข้ส่วนใหญ่มีระดับความดันโลหิตใน ระดับปกติ
ซึ่งจากการทดสอบกับผู้ป่วยทำให้สามารถเห็นระดับความดันเลบือดที่ลดลงได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะลดลงเพียงเล็กน้อยก็ตาม
อย่างไรก็ตามนักวิชาการทางด้านโรคหัวใจและหลดเลือดได้กล่าวว่า การค้นพบในครั้งนี้มิใช่การออกมาบอกให้ทุกคนหันมาดื่มน้ำส้มวันละ 2 แก้ว แต่คนไข้ที่พฤติกรรมการบริโภค เพราะมีแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจกล่าวว่าการบริโภคอาหาร การควบคุมน้ำหนัก ตลอดจนการดูแลระดับแอลกอฮอล์และระดับเกลือในร่างกายนั้นถือว่ามีความสำคัญ และมีผลกระทบมากกว่าการรักษาทางการแพทย์เสียอีก
นักวิชาการยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่าความแตกต่างเพียงเล็กน้อยของความ ดันโลหิตนั้น สามารถสร้างความแตกต่างเพียงอย่างใหญ่หลวงต่อความเสี่ยงของโรคหลอดเลือด หัวใจได้ และเช่นกันกับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งไม่ควรพอใจกับการควบคุมที่เป็นเหตุเป็นผลเท่านั้นหากควรมุ่งไปยังเรื่อง ของความดันโลหิตเป็นสำคัญด้วย