แนะงีบเพียง 10-30 นาที ทำให้ร่างการสดชื่นได้
"หาว" เป็นกิริยาอาการที่ ต้องอ้าปากให้กว้างเพื่อสูดลมเข้าไปลึกๆ ทางปากแล้วจึงระบายลมออก ส่วนใหญ่จะหาวเวลาง่วงนอน แต่อาการเช่นนี้เวลาเหนื่อยก็หาวได้เหมือนกัน
นอกจากนี้แล้ว อาการหาว น้ำตาไหล น้ำมูกไหล อาจเกิดจากปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกาย อาจมาจากการที่สมองขาดออกซิเจนไปชั่วขณะ หรืออาจได้รับก๊าซคาร์บอนมอนน๊อกไซต์มากเกินไป
เมื่อร่างกายเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ก็ต้องมีบ้างที่จะแสดงอาการง่วงเหงาหาวนอนให้ได้เห็น นั่นก็เป็นเพราะปฏิกิริยาของร่างกายที่ต้องการพักผ่อนนั่นเอง อาการหาวนั้น เป็นการหายใจลึก ๆ อีกวิธีหนึ่งของ ร่างกายเพื่อที่ดูดเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกายให้มากๆ ถ้าหากออกซิเจนยังไม่พอเราก็จะหาวอีกหลาย ๆ รอบ และทุกครั้งที่หาวถ้าเป็นเวลาทำงาน เราจะรู้สึกสดชื่น สมองโล่งมากเป็นพิเศษ แต่หากอยู่ในช่วงกลางคืนหรือช่วงเวลานอน ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนล้ามาจากการทำงานทั้งวัน จะเป็นอาการอยากนอนมากกว่า
“การหาว” จึงเป็นเหมือนอาการเตือนให้เรารู้ว่าตอนนี้ร่างการเริ่มต้องการการพักผ่อน บ้างแล้ว การพักผ่อนที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นการนอนหลับยาวเสมอไป บางครั้งการงีบหลับสัก 10 นาทีถึงครึ่งชั่วโมง ก็ทำให้ร่างกายกลับมาสดชื่น มีแรงทำงานได้ต่อ เหมือนนอนหลับมาทั้งคืนแล้ว
และเมื่อถึงเวลานอน การนอนที่ถูกต้องควรนอนในห้องที่สะอาด อากาศถ่ายเท ไม่มีเสียงหรือสิ่งรบกวนการนอน เพียงเท่านี้เราก็จะนอนได้อย่างเต็มอิ่ม มีความสุข แม้ว่าจะนอนเพียง 4 ถึง 6 ชั่วโมง แต่หากเป็นการนอนในระดับหลับลึก ก็รู้สึกสดชื่นไม่แพ้การนอนวันละ 8 ชั่วโมงเช่นกัน
แต่หากไม่อยากหาวบ่อย ๆ ก็ลองพยายามหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่เคร่งเครียด หลีกเลี่ยงจากมลพิษ และอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก รับรองอาการหาวของคุณจะค่อย ๆ ลดลง
แต่หากลองแล้ว ยังไม่ได้ผล ยังหาวอยู่เรื่อย ๆ วันละไม่ต่ำกว่า 30 ครั้งล่ะก็ แนะนำให้ไปพบแพทย์ตรวจร่างกายดีกว่า เพราะการหาวบ่อย ๆ แบบนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับลักษณะการนอนและระบบทางเดิน หายใจเข้าแล้ว
ข้อมูลจาก
อรอนงค์ ทองศิลป์
"หาว" เป็นกิริยาอาการที่ ต้องอ้าปากให้กว้างเพื่อสูดลมเข้าไปลึกๆ ทางปากแล้วจึงระบายลมออก ส่วนใหญ่จะหาวเวลาง่วงนอน แต่อาการเช่นนี้เวลาเหนื่อยก็หาวได้เหมือนกัน
นอกจากนี้แล้ว อาการหาว น้ำตาไหล น้ำมูกไหล อาจเกิดจากปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกาย อาจมาจากการที่สมองขาดออกซิเจนไปชั่วขณะ หรืออาจได้รับก๊าซคาร์บอนมอนน๊อกไซต์มากเกินไป
เมื่อร่างกายเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ก็ต้องมีบ้างที่จะแสดงอาการง่วงเหงาหาวนอนให้ได้เห็น นั่นก็เป็นเพราะปฏิกิริยาของร่างกายที่ต้องการพักผ่อนนั่นเอง อาการหาวนั้น เป็นการหายใจลึก ๆ อีกวิธีหนึ่งของ ร่างกายเพื่อที่ดูดเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกายให้มากๆ ถ้าหากออกซิเจนยังไม่พอเราก็จะหาวอีกหลาย ๆ รอบ และทุกครั้งที่หาวถ้าเป็นเวลาทำงาน เราจะรู้สึกสดชื่น สมองโล่งมากเป็นพิเศษ แต่หากอยู่ในช่วงกลางคืนหรือช่วงเวลานอน ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนล้ามาจากการทำงานทั้งวัน จะเป็นอาการอยากนอนมากกว่า
“การหาว” จึงเป็นเหมือนอาการเตือนให้เรารู้ว่าตอนนี้ร่างการเริ่มต้องการการพักผ่อน บ้างแล้ว การพักผ่อนที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นการนอนหลับยาวเสมอไป บางครั้งการงีบหลับสัก 10 นาทีถึงครึ่งชั่วโมง ก็ทำให้ร่างกายกลับมาสดชื่น มีแรงทำงานได้ต่อ เหมือนนอนหลับมาทั้งคืนแล้ว
และเมื่อถึงเวลานอน การนอนที่ถูกต้องควรนอนในห้องที่สะอาด อากาศถ่ายเท ไม่มีเสียงหรือสิ่งรบกวนการนอน เพียงเท่านี้เราก็จะนอนได้อย่างเต็มอิ่ม มีความสุข แม้ว่าจะนอนเพียง 4 ถึง 6 ชั่วโมง แต่หากเป็นการนอนในระดับหลับลึก ก็รู้สึกสดชื่นไม่แพ้การนอนวันละ 8 ชั่วโมงเช่นกัน
แต่หากไม่อยากหาวบ่อย ๆ ก็ลองพยายามหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่เคร่งเครียด หลีกเลี่ยงจากมลพิษ และอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก รับรองอาการหาวของคุณจะค่อย ๆ ลดลง
แต่หากลองแล้ว ยังไม่ได้ผล ยังหาวอยู่เรื่อย ๆ วันละไม่ต่ำกว่า 30 ครั้งล่ะก็ แนะนำให้ไปพบแพทย์ตรวจร่างกายดีกว่า เพราะการหาวบ่อย ๆ แบบนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับลักษณะการนอนและระบบทางเดิน หายใจเข้าแล้ว
ข้อมูลจาก
อรอนงค์ ทองศิลป์